วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

ฤ เรา ลืม โดย ชฤต ภู่ศิริ



อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรีมีความยินดีเรียนเชิญท่านร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดนิทรรศการศิลปะ

ฤ เรา ลืม  
โดย ชฤต ภู่ศิริ ในวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2554 เวลา 18.30 น.
ณ อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี (สุขุมวิท 55 ทองหล่อซอย 10)



นิทรรศการ “ฤ เรา ลืม” นำเสนอผลงานภาพถ่ายภายใต้แนวความคิดเกี่ยวกับการใคร่ครวญค้นหา “ความเป็นไทย” ที่ใครหลายๆ คนอาจมองข้ามไปด้วยความคุ้นชิน จากวิถีชีวิตและกระแสโลกาภิวัตน์ถาโถมทั่วโลก ซึ่งมีผลกระทบให้อัตลักษณ์ของความเป็นไทย ยากจะแยกตัวออกมาได้จากคลื่นวัฒนธรรมร่วมระดับสากล ภาพถ่ายผู้คน สัตว์ สิ่งของในนิทรรศการครั้งนี้ จะชี้ชวนให้ผู้ชมทุกท่านได้ลองตั้งคำถามกับตนเองว่า อันที่จริงแล้ว “ความเป็นไทย” ของคุณคืออะไร  




นิทรรศการเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน – 27 พฤษภาคม 2554 ณ อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล โทร: 02-422-2092, 086-890-2762 แฟกซ์: 02-422-2091
อังคาร-เสาร์ 10.30 - 19.00 น. อาทิตย์ 10.30 - 17.30 น. (ปิดวันจันทร์)
เว็บไซต์: www.ardelgallery.com

ชั่วโคตรข้าพเจ้า โดย สมพงษ์ สารทรัพย์


นิทรรศการศิลปกรรม “ชั่วโคตรข้าพเจ้า”

โดย สมพงษ์ สารทรัพย์

ระหว่างวันที่ ๗-๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔,

ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป
เวลาเปิดทำการ,วันพุธ - อาทิตย์ เวลา ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น.

หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์

รายละเอียดเพิ่มเติม







พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป
เลขที่4 ถนนเจ้าฟ้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร.   (02) 282-2639-40   (02) 281-2224  ต่อ 14, 17
แฟกซ์ (02) 282-2639-40    (02) 281-2224  ต่อ 15

นิทรรศการภาพถ่ายร่วมสมัย “ ในดินแดนแห่งความเงียบเหงา ” โดย คัทรียา จารุทวี


เดอะพิคเจอร์แกลเลอรี ขอแจ้งรายละเอียดและประชาสัมพันธ์ 

นิทรรศการภาพถ่ายร่วมสมัย  “ ในดินแดนแห่งความเงียบเหงา ” โดยศิลปินช่างภาพ  คัทรียา จารุทวี  
ณ ห้องแสดงนิทรรศการ เดอะพิคเจอร์แกลเลอรี   ในวัน พฤหัสบดี  ที่ 19 พฤษภาคม 2554  ในเวลา  18:30 น. เป็นต้นไป



ในฤดูร้อนของปีนี้  เดอะพิคเจอร์แกลเลอรี ยินดีนำเสนอนิทรรศการผลงานภาพถ่ายร่วมสมัย ของศิลปินช่างภาพหญิง  คัทรียา   จารุทวี   ซึ่งแฝงเร้นและเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง  เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึกภายใต้บรรยากาศและผู้คนในภาคอีสานของไทย


“คัทรียา  จารุทวี ได้นำเสนอภาพถ่ายซึ่งได้พรรณาผลกระทบในชนบท : การย้ายถิ่นฐานของประชากร  โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของประเทศไทย   ความว่างเปล่าของชุมชน ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากการย้ายถิ่นฐานของผู้คนเข้าหาความเจริญ คือเมืองหลวง   เพื่อความก้าวหน้าและโอกาสทางอาชีพของพวกเขา   แล้วเราหันกลับไปมอง มีอะไรบ้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่แห่งความเงียบเหงานี้  สิ่งที่พบช่างต่างกันสุดขั้ว คือเด็กและคนชรา  โดยภาคอีสานนั้นยังคงเป็นพื้นที่ที่ทำการเกษตร.... การปลูกข้าว......และนี่คืออาชีพของคนที่ยังเหลืออยู่ที่นี่  ซึ่งเมื่อเรามองจากเมืองใหญ่  เราอาจจะรู้สึกว่าช่างเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนเนื่องจากความแห้งแล้ง และความยากจน  แต่เราก็อาจกำลังหลงลืมกันไปว่า  วัฒนธรรมที่รุ่งเรือง และรวงข้าวสีทองอร่ามในทุ่งนานั้นแท้จริงแล้วก็คือโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศเราอีกทางหนึ่ง " จากบันทึกทางภาพ  ถ่าย  "ในดินแดนแห่งความเงียบเหงา ”  เพื่อสะท้อนให้เห็นแง่มุมของถิ่นฐานทางภาคอีสานก่อนที่สิ่งสำคัญจะถูกลืมเลือน
 
เป็นการแสดงนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเธอ  จัดแสดงเฉพาะที่เดอะพิคเจอร์แกลเลอรี 

นิทรรศการเปิดให้ท่านชมจนถึงวัน พฤหัสบดี  ที่ 16 มิถุนายน 2554 
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่
เดอะพิคเจอร์แกลเลอรี 
เปิดทำการวันอังคาร- วันอาทิตย์  เวลา  10:00 น. – 19:00น
โทรศัพท์ 02 662 8359  มือถือ  086 3391281 
อีเมลล์  art@thepikturegallery.com
หรือชมข้อมูลผ่านเว็บไซต์ได้ที่    www.thepikturegallery.com 

AFTER AFTERALL (UNTIL THE END OF TIME) โดย รองศาสตราจารย์เกศ ชวนะลิขิกร



AFTER AFTERALL (UNTIL THE END OF TIME)

เป็นการกลับมาแสดงผลงานนิทรรศการอีกครั้งของรองศาสตราจารย์เกศ ชวนะลิขิกร นอกจากอาจารย์จะเป็นศิลปินแล้ว ยังเป็นอาจารย์ประจำคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งผลงานของอาจารย์ที่ผ่านมาเป็นที่รู้จักเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ที่สะสมงานศิลปะ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอาจารย์เกศ ชวนะลิขิกร มีผลงานการแสดงนิทรรศการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครั้งนี้อาจารย์ได้จัดนิทรรศการขึ้นอีกครั้งโดยใช้ชื่องานแสดงว่า “AFTER AFTERALL (UNTIL THE END OF TIME)”

โดยศิลปิน: ศาสตราจารย์เกศ ชวนะลิขิกร
รูปแบบเทคนิค: Acrylic on canvas
ระยะเวลาการแสดงนิทรรศการ: 9 มิถุนายน 2554 ไปจนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2554


แนวความคิด (Concept)
คนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ธรรมชาติเป็นสิ่งที่สวยงาม เมื่อเรามองดู ท้องฟ้า ทะเล ภูเขา ช่างเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งสบาย ธรรมชาติมักเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นที่พักชั่วคราวของคนที่ใช้เวลาในชีวิตปกติ โดยไม่เคยนึกถึงธรรมชาติเลย ธรรมชาติเป็นที่รักของคนเมื่อมีเวลาว่าง

ธรรมชาติอาจดูดีเมื่อเราเป็นนักท่องเที่ยวแบบชะโงกเที่ยว แต่เมื่อเราเที่ยวแบบกึ่งเที่ยวกึ่งผจญภัย
เหมือนชาวบ้านทำกันในชีวิตจริง เช่นนอนในเรือเล็กกลางทะเลเดินหลงป่า มดและแมลงสัตว์กัดต่อย เหนื่อยเหงื่อโทรมกาย ธรรมชาติก็คงดูไม่ค่อยน่ารักนัก

ธรรมชาติเปลี่ยนไปตามเวลา เหมือนทุกๆสิ่งในโลก เราไม่เคยมองเห็นเวลา เวลาไม่มีรูป เราไม่รู้ว่า
เวลาดูสวย หรือบางทีอาจจะดูไม่ค่อยน่ารัก รูปของเวลาอาจจะสมมุติได้หลายอย่าง หรือเวลาคือ อรูป เพราะเวลาเดินตลอด

ผมขอสมมุติให้รูปของเวลาเป็นอรูปของธรรมชาติที่กำลังเปลี่ยนแปลง ธรรมชาติกำลังเปลี่ยนแปลง
ไปในทางไหน ธรรมชาติก็เปลี่ยนไปตามธรรมชาติเองเหมือนการเคลื่อนไหวของเมฆและลม จนกว่า
จะถึงการจบของเวลา

สถานที่:
ART REPUBLIC ชั้น 3 อาคารเพนนินซูล่า พลาซ่า
เลขที่ 153 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร. 02-6521801

วันเปิดนิทรรศการ: วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2554 เวลาตั้งแต่ 6.30 น. เป็นต้นไป

ระยะเวลาในการแสดงงาน: ตั้งแต่วันที 9 มิถุนายน 2554 ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2554
ทุกวันอังคาร – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-6521801
www.artrepublicbkk.com

นิทรรศการงานศิลปะร่วมสมัยภายใต้ชื่อ "ลอย" โดย สุธี คุณาวิชยานนท์

สุธี คุณาวิชยานนท์
นิทรรศการงานศิลปะร่วมสมัยภายใต้ชื่อ "ลอย"
29 เมษายน - 31 ตุลาคม 2554
งานเปิดจะมีขึ้นในวันที่ 29 เมษายน 2011 เวลาหนึ่งทุ่มตรงที่ WTF Café & Gallery
งานนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ What The Festival วันที่ 29 - 30 เมษายน 2554

WTF Gallery มีความยินดีขอเชิญท่านเข้าร่วมงานนิทรรศการประติมากรรมภายใต้ชื่อ ลอย (Floating) โดย สุธี คุณาวิชยานนท์ เเละนำเสนอ Pre-sale Offer ได้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2011

Floating เป็นงานที่เชิญชวนให้ผู้ชมคิดไปไกลกว่าโลกแห่งความเป็นจริง งานประติมากรรมนี้แยกตัวออกจากพื้นโลก ประหนึ่งการรับรู้ที่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ผ่านการฝัน การนั่งสมาธิ การเสพยาเสพติดและสุรา หรือการถูกสะกดด้วยมนต์วิเศษ ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามว่าการที่งานประติมากรรมลอยอยู่นี้เป็นจินตนาการ เป็นความจริง หรือเป็นเพียงภาพลวงตากันแน่?

สุธี คุณาวิชยานนท์ เป็นศิลปินชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ผู้นิยมเชื้อเชิญให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในผลงานศิลปะของเขาทั้งทางตรงและทางอ้อม สุธีมักทำให้ผู้ชมตั้งคำถามหรือมีปฏิกิริยาตอบโต้กับชิ้นงานศิลปะ และในขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวผู้ชมเองและสังคมรอบข้างอีกด้วย ธีมทางศิลปะที่โดดเด่นในผลงานของเขามักเกี่ยวข้องโดยตรงกับประวัติศาสตร์และ ธรรมเนียมประเพณีของไทย โดยรวม งานศิลปะของเขามีเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะ ประวิตศาสตร์ การเมือง ผู้ชม และวัสดุทีใช้  โดยสุธีนิยมใช้วัสดุที่หลากหลาย อาทิเช่น ไฟเบอร์กลาส ไฟนีออน โต๊ะเรียน โลหะ และทองเปลว

สุธีมีงานแสดงศิลปะหลายครั้งในประเทศไทย ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และเกาหลี งานแสดงศิลปะเดี่ยวของเขาเคยถูกจัดแสดงที่ Phuket 346 (ประเทศไทย), 100 Tonson Gallery (ประเทศไทย), Atelier Frank & Lee (สิงคโปร์) Thai Art Foundation (เนเธอร์แลนด์) Optica (แคนาดา) and Musashino Art University (ญี่ปุ่น).

เขายังเป็นหนึ่งในภัณฑารักษ์ผู้ร่วมจัดแสดงผลงานของประเทศไทยในงาน Venice Biennale ปี 2005 นอกจากนี้สุธียังเป็นนักเขียนและนักวิจารณ์ศิลปะที่เป็นที่รู้จักวงกว้างอีก ด้วย
ผลงานของสุธีหลายชิ้นถูกซื้อเพื่อนำไปจัดวางในแกลเลอรี่และองค์กรต่างๆทั่ว โลก อาทิเช่น H+F Collection ประเทศเนเธอร์แลนด์, Singapore Art Museum ประเทศสิงคโปร์, ธนาคารกสิกรไทย ประเทศไทย, ธนาคารทิสโก้ ประเทศไทย, LASALLE College of the Arts ประเทศสิงคโปร์, Fukuoka Asian Art Museum ประเทศญี่ปุ่น, Queensland Art Gallery ประเทศออสเตรเลีย และ Mori Art Museum ประเทศญี่ปุ่น


รายละเอียดของงานศิลปะ
ปี:  2011
เทคนิค:  ไฟเบอร์กลาส
ขนาด:   เท่าตัวจริง
วัสดุ:  ไฟเบอร์กลาส ไฟนีออนสีเหลือง
จำนวน: 9

ราคาพิเศษตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2011:  80,000 บาทต่องานประติมากรรมหนึ่งชิ้น (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)  หลังวันที่ 30 เมษายน 2011: 100,000 บาทต่องานประติมากรรมหนึ่งชิ้น (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ติดต่อ สมรัก ศิลา - ผู้จัดการ
WTF Gallery & Cafe
7 สุขุมวิท 51
คลองตันเหนือ วัฒนา
กรุงเทพฯ 10110
โทร/เเฟกซ์ 02 662 6246
email: somrak@wtfbangkok.com
www.wtfbangkok.com
สถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ
โทร (66) 2 662 6246, (66) 89 926 5474
เปิดให้เข้าชม ทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 15.00-01.00น.
ไม่เสียค่าใช้จ่าย

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

เกมสาดน้ำสงกรานต์

    เมื่อเทศกาลสงกรานต์เวียนมาถึง หลายคนมุ่งหน้ากลับบ้านไปทำบุญ และรดน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุ รวมทั้งเตรียมสนุกสนานกับการเล่นสาดน้ำอย่างสร้างสรรค์ และหนึ่งในวิธีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์รูปแบบใหม่คือ สาดน้ำในโลกอินเทอร์เน็ต ผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของเด็กไทยยุคใหม่ ที่ได้สร้างเกม “RTS” (Real Time Strategy) ที่ชื่อว่า “Songkran Festival: Splash Hour หรือเกมสาดน้ำสงกรานต์” โดยฝีมือของนักศึกษาสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

    เกมนี้ผู้เล่นสามารถสร้างทีม เล่นน้ำสงกรานต์ด้วยการต่อสู้กับคอมพิวเตอร์ โดยสามารถเลือกตัวละครได้ 4 ตัว จาก 6 ตัวเลือก ตัวละครแต่ละตัวจะมีความสามารถแตกต่างกัน เช่น มีปืนฉีดน้ำ มีลูกโป่งน้ำเพื่อปาฝ่ายตรงข้าม มีไดร์เป่าผมไว้เป่าผู้เล่นให้แห้งหลังโดนฝ่ายตรงข้ามสาดน้ำ มีโทรศัพท์มือถือไว้เรียกเพื่อนๆ มาช่วยกันสาดน้ำ เป็นต้น ซึ่งผู้เล่นต้องวางแผนเลือกตัวละครให้ดี ต้องรู้ว่าจะใช้ตัวละครไหนเวลาใด ต้องอ่านคุณสมบัติของตัวละครให้ได้ เพื่อสาดน้ำฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันต้องวางแผนป้องกันการโจมตี และหาที่หลบที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้ตัวเองเปียกน้ำอีกด้วย
     
       เกมนี้นอกความสนุกสนานแล้ว ยังสอดแทรกประวัติความเป็นมาของประเพณีสงกรานต์ไทย และข้อมูลการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไว้ในเกมอีกด้วย ซึ่งจากแนวคิดการทำเกมที่น่าสนใจ รูปแบบเกมที่มีสีสันสวยงาม เทคนิคที่โดดเด่น และความพยายามในการสร้างเกมที่ยากออกมาได้สำเร็จ ทำให้เกมของพวกเขา ได้รับรางวัลชนะเลิศ โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ระดับนิสิต นักศึกษา ในโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 (National Software Contest: NSC 2011) ซึ่งจัดโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


ข้อมูล : manager.com

สามารถดาวน์โหลดได้ที่
http://www.thaiware.com/main/info.php?id=10755

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม